บทความโดย..ไชยพร สวัสดิ์ชัยสิทธิ์ (น้องไอซ์)
1.บลูเบอร์รี่:จากผลการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานิน (anthooyanin)สารเม็ดสีในบลูเบอร์รี่ ช่วยในเรื่องบำรุงสายตา
2.พริกหยวก:ทั้งพริกแดง พริกเขียวและพริกเหลือง ต่างมีสาร แอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆจากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรง อีกด้วย
3.กะหล่ำปลี:เห็นเขียวๆม่วงๆอย่างนี้ รู้มั้ยว่ากะหล่ำปลีนั้นอุดมไปด้วยวิตตามินA.C และเบต้าแคโรทีน ที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพียงหั่นกะหล่ำปลีบางๆ แล้วนำไปผัดกับขิง และกระเทียม ก็ได้มื้อค่ำสุดอร่อยแล้ว
4.วอลนัท:ทองแดงในวอลนัทช่วยคงสภาพสีผม ไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัยอันควร ลองโรยวอลนัทลงบนสลัด หรือโยเกิร์ตก็ไม่เลว
5.แอปริคอท:สารเบต้าแคโรทีนในแอปริคอทช่วยชะลอการเสื่อมถอยของเลนส์ตา ช่วยในการมองเห็นได้ดี ใส่แอปริคอทลงไปในสตูว์ไก่ ผสมกับขิงและอบเชย จะได้กลิ่นอายแบบ โมร็อคโค
6.อะโวคาโด(แสนขมมม)การรัปประทานอะโวคาโด ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสนแดด เนื่องจากอะโวคาโด อุดมไปด้วยวิตตามิน บดอะโวคาโดโรยหน้าเค้กทานดูก็ได้
7.สตรอเบอร์รี่:วิตตามินซีและสารบางอย่างในสตรอเบอร์รี่ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผนังเส้นเลือด ผลไม้สีแดงสดทรงเสน่ห์แบนี้ เพียงแช่เย็นใว้จิ้มกินกันเกลือ ก็อร่อยแล้ว
8.เต้าหู้:หยุดยั้งผิวที่ซีดและแห้ง โดยการรับประทานอาหารอย่างเต้าหู้ เพราะในเต้าหู้มีสารที่จะช่วยคืนสภาพผิว และป้องกันรอยเหี่ยวย่น
9.ข้าวโอ็ต:เต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดอาการตึงเครียด จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นลดลง
10.กระเทียม:สมุนไพรกลิ่นแรงอย่างกระเทียม มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรียล้างพิษ และป้องกันไวรัสจา กโรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่ไข้หวัดไปจนถึงมะเร็ง อาหารไทยส่วนใหญ่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
12.ลินสีด:ช่วยลดอาการเจ็บตามข้อต่อกระดูก เพราะอุดมไปด้วย โอเมก้า3 ที่ร่างกายใช้ในการสร้างฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติป้องกันการอักเสบ ลองเติมลงไปในน้ำปั่นหรือหน้าสลัดดูก็ได้
13.กีวี:วิตตามินซี และสารอาหารบางอย่างในกีวีช่วยในการไหลเวียนของออกซิเจน ลดปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่นโรคหืด หอบ หั่นกีวีเป็นลูกเต๋าเสียบไม้กับกล้วยหรือมะม่วง
14.ลูกพลัม:อุดมไปด้วยสารอาหาร ที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของไขมันซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง น้ำลูกพลัมไปเคี่ยวกับน้ำส้มและโรยลงไปบนมูสลี่หรือจะกินเล่นเป็นขนมก็ได้
15.มะเขือม่วง:เปลือกของมะเขือม่วงนั้นอุดมไปด้วยนาซูนิน(nasunin)ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องสมองของคุณจากการถูกทำลายเพื่อคงความฉลาดหลักแหลมของคุณใว้
16.กล้วย:เป็นแหล่งรวมของโพลแตสเซียม นอกจากกล้วยจะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร แล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก แค่ผสมเข้ากับนม น้ำผึ้ง และอัลมอนด์ ก็จะได้อาหารแสนอร่อยแล้ว
17.ส้ม:การรับประทานส้มทั้งผลแทนการดื่มน้ำ ส้มจะช่วยให้ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำวิตตามินในน้ำส้มยังช่วยป้องกันและเยียวยาโรคหวัด
18.ข้าวกล้อง:ฮอตฮิตกันอยู่พักใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยแร่แมงกานิส ที่จะช่วยให้พลังงานกับร่างกาย โดยการให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบสีสันจัดจ้านของข้าวกล้อง ก็สามารถหุงข้าวกล้องรวมกับข้าวสวยได้
19.ลูกพรุน:โพแทสเซียมในลูกพรุนช่วยลดโคเลสเตอรรอลในเลือด และลดระดันความดัน
20.คะน้า:ช่วยให้ตับของคุณผลิเอนไซน์ในการต่อต้านมะเร็ง เมื่อคุณเคี้ยวคะน้า จากงานวิจัยพบว่า สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้
21.ผักโขม:คุณจะได้รับแคลเซียมจากผักโขมในขณะเดียวกันก็มี แมกนีเซียมที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดี การรับประทานผักโขมในสลัด จะช่วยป้องกันโรคกระดูกเปราะและหักง่าย
22.ราสเบอร์รี่:จากผลการวิจัยพบว่าสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในราสเบอร์รี่ สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายได้
23.ถั่วงอก:สารที่พบในถั่วงอกสามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ถั่วงอกยังประกอบไปด้วยสารอาหารในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยเรื่องโรคเล็กน้อยในผู้หญิงหมดประจำเดือน
(ต่อไปนี้พวกเราจะเด็กขึ้นแล้ว....)
24.บล็อกโคลี่:การรับประทานบล็อกโคลี่เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ20%และยังมีวิตตามินซีที่ช่วยป้องกันการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อปวดตามข้อและไขข้ออักเสบ
25.บีทรูท:เนื้อของบีทรูทอุดมไปด้วย เบต้าไซยานินซึ่งเป็นสารต่อต้านมะเร็ง
26.องุ่นแดง:จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเลือดจับตัวเป็นก้อน และดักจับไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายของเส้นเลือดแดง
27.ปลาแซลมอน:หรือเนื้อปลาชนิดอื่นๆที่มีไขมันปนอยู่บ้างนั้น สามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บมากมายอีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลายังช่วยในเรื่องของสมองด้วย
28.มะเขือเทศ:สารไลโคพิน(lycopehe)ในมะเขือเทศ จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอดและลำไส้ใหญ่ ที่สำคัญ ช่วยให้ผิวสวยอย่าบอกใครเชียว
29.หัวหอม:จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดทั้งช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน
******** ที่มา///หนังสือคู่สร้าง คู่สม
(ต่อไปนี้พวกเราจะเด็กขึ้นแล้ว....)
ภาพจากอินเตอร์เนต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น