สารบัญ

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ปั่นจักรยานอย่างไรให้มีความสุข


 ปั่นจักรยานอย่างไรให้มีความสุข



- อย่างไรถึงจะเรียกว่า มีความสุข คงหาคำตอบได้ไม่ง่ายนัก เพราะนึกไม่ออกเลยว่าจะปั่นให้มีสุขได้อย่างไร ในเมื่อความจริงแล้วขณะที่ปั่นเราจะพบกับความร้อน เหงื่อ  เหนื่อย หมดแรง ฯลฯ ตลอดการปั่นไม่ว่าจะปั่นใกล้หรือไกล โดยเฉพาะปั่นทางไกล..
- แต่ก็ไม่สิ้นความพยายามหาทางออกในเรื่องนี้ โดยการเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ว่า ปั่นจักรยานอย่างไรไม่ให้มีความทุกข์ แบบนี้คงหาคำตอบได้ง่ายกว่า

- เพราะกับการปั่นจักรยานแล้ว ผู้คนทั่วๆไปจะนึกถึงแต่ความไม่สบายตัว..ความร้อน...ดังที่กล่าวมาแล้ว...แถมท้ายที่น่ากลัวที่สุดก็คือ อุบัติเหติ ตั้งแต่เบาๆจนถึงรุนแรง...
- เพราะฉะนั้นแล้ว การขี่จักรยานอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ก็เอาร่างกายของเราเองมาเป็นจุดเริ่มต้น อันดับต้นๆไม่พ้นเรื่องอาหาร คือคนเราต้องกิน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะออกปั่นอย่างมีความสุขขณะที่กำลังหิว โดยเฉพาะพวกแป้ง ไขมัน น้ำตาลบ้าง...แต่ก็ต้องไม่เกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งแค่ไหนนั้นคงหาความรู้ได้จากรอบๆตัวทั่วไป คิดไม่ออกก็ กินแต่พอดี เอากลางๆไว้ก่อน พอเหมาะ พอดีกับการปั่นครั้งนั้นๆ ที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อรู้สึกหิวต้องกินทุกครั้ง..แล้วค่อยปั่นต่อ..
- มักจะมีหลายคนบ่นว่าเหนื่อย หรือไม่มีแรงปั่น ในข้อนี้ตัดเรื่องใจสู้ออกไปก่อนเหราะมีหลายคนที่ใจเกิน100แต่ร่างกายไม่ไหวจริงๆ จนกระทั่งบางคนเป็นลมหมดสติ บาดเจ็บร่างกายส่วนต่างๆเพราะทนต่อการใช้กำลังเกินขีดความสามารถของร่างกายที่จะรับได้
- เรื่องนี้ก็แก้ไขและป้องกันได้ โดยการปั่นเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรือจะเรียกว่าการซ้อมก็ได้ การปั่นเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ทนต่อสภาพอากาศ ความร้อนต่างๆได้ดีขึ้น เป็นอันว่า ปั่นให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ4วัน ทำได้แบบนี้ร่างกายเราก็จะแข็งแรงขึ้นเวลาปั่นก็จะเหนื่อยน้อยลง...
- การที่เราจะซ้อมปั่นให้ได้บ่อยครั้งอย่างต่อเนื่องได้นั้น คุณจะต้องเสาะแสวงหาแรงจูงใจ จากคนรอบข้าง เช่นเพื่อญาติพี่น้อง เพื่อคนรัก เพื่อปั่นสู้โรค เพื่อฮีโร่ในดวงใจ ฯลฯ
-
- เมื่อเรามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำให้เราออกปั่นได้มากและบ่อยครั้งขึ้น คุณก็จะพบกับปัญหาใหม่ก็คือ ฤดูกาล ที่เปลี่ยนไปเป็นประจำทุกปี..
- คงมีน้อยคนมากที่จะชอบปั่นกลางสายฝน เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของเราแล้วยังไม่ดีต่อรถจักรยานคันเก่งของเราอีกด้วย..
- แต่ก็จะใช่ว่าไม่สามารถปั่นได้เมื่อฤดูฝนมาเยือน เพียงแต่เราต้องใช้ เทรนเนอร์ ปั่นอยู่กับที่ ที่บ้าน...ตลอดช่วงที่ฝนตกหนัก




- หากฝนตกไม่หนักมาก แค่พอแฉะๆชื้นๆ อยากให้คุณทดลองออกไปปั่นพร้อมกับเสื้อกันฝนแบบครึ่งตัว คุณจะได้พบกับความแปลกใหม่อีกมากมาย เช่น สายหมอก,รุ้งกินน้ำ และช่วงหน้าฝนนี่แหละ จำไว้เลยว่า ฟ้าหลังฝนเวลากลางวันมันสวยมากๆ

- ประสบปัญหาเรื่องฝนในฤดูฝนไปแล้ว ก็ใช่ว่าหน้าร้อนจะไม่มีทุกข์ ปัญหาของหน้าร้อนก็ไม่พ้นแสงแดด แต่รู้สึกว่า เราจะรับมือกับหน้าร้อนได้ง่ายกว่าหน้าฝน
- เช่นเตรียมใส่หมวกแบบที่ปิดทั้งใบหน้า หรือใช้ผ้าบัฟ

เพียงเท่านี้เราก็สามารถรับมือกับแสงแดดแรงๆได้ดี..
- อุปกรณ์ที่จำเป็นเพิ่มเติมก็เช่น แว่นตา ปลอกแขน,ขา,ถุงมือ,ครีมกันแดด.......
- ที่สำคัญที่สุดที่เรามักจะลืมและไม่ให้ความสำคัญคือ การเสียน้ำจากร่างกาย แดดแรงๆนี่ทำให้เราเวียนหัว หน้ามืดเป็นลม และเป็นอันตรายอย่างมาก เราควรจะจิบน้ำบ่อยๆ...ตลอดการปั่นขณะแสงแดดแรงๆ...และรู้จักขีดจำกัดของตัวเอง
- อีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางเลือกที่ดี คือการเลือกเวลาปั่น เช่นหลีกเลี่ยงการปั่นช่วง11.00น-14.00น
-  เพียงแค่นี้แสงแดดก็จะเป็นเรื่องเล็กสำหรับการปั่นให้มีความสุข
-  ฤดูหนาวน่าจะเป็นฤดูที่เป็นมิตรกับนักปั่น...เพียงเตรียมเสื้อหนาๆเข้าไว้ใส่เสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาว ก็น่าจะเพียงพอกับฤดูกาลได้ ฤดูหนาวไม่ค่อยเป็นอุปสรรคต่อการขี่จักรยานในเมืองไทยเท่าไหร่...

- หมดปัญหาจากฤดูกาล,ความขี้เกียจ และหาแรงบันดาลใจได้แล้ว...ใช่ว่าจะหมดทุกข์ของชาวจักรยาน ทุกข์ต่อไปนี้เป็นทุกข์ที่หนักที่สุด แก้ยากที่สุด ทุกข์นั่นคือ ทุกข์จากการจราจรบนถนนเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลต่อชีวิตของชาวจักรยานได้เลย แต่ก็ใช่จะหมดหนทางหาความสุขและความปลอดภัยจากการจราจรได้...
- ปัญหาการจราจรนี้แก้ได้โดยเราเอง เช่น ฝึกซ้อมจนร่างกายแข็งแรงมีทักษะการบังคับรถที่ดี จักรยานก็ควรอยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับสภาพถนน..การใช้สัญญาณมือในการขับขี่ได้อย่างถูกต้องถูกเวลา เพื่อที่จะได้ให้ผู้ที่ใช้ยานพาหนะอื่น ได้เข้าใจทิศทางการเคลื่อนที่ของเรา
- เสื้อผ้าก็ควรให้มีสีสันสะดุดตา,ชวนมอง ยวดยานชนิดอื่นจะได้มองเห็นเราแต่ไกล สรุปได้ว่าเครื่องแตงแต่งกายให้ดูดีเข้าไว้ ใครจะว่าเราไม่ได้ว่า ขี่จักรยานกระจอก
- รองเท้าหุ้มส้น,หมวกนิรภัย,ก็จำเป็นใส่แล้วจะดูดีมากในสายตาชาวบ้าน ถือคติ แต่งตัวเต็มยศ แต่งรถยศครึ่ง คือทุกอย่างพร้อมที่จะบังคับรถได้อย่างมีความสุข
- ที่จะลืมไม่ได้อีกอย่างก็คือ เราต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดแล้วคุณจะปลอดภัย
ต้องจำไว้ว่า ไม่มียานพาหนะใดๆจะปลอดภัย100%”
-ปัญหาอีกอย่างที่ชาวจักรยานมักจะพบตามถนนทั่วๆไปโดยเฉพาะตามตรอก-ซอยต่างๆ สิ่งนั้นคือหมา น้องหมาที่ไล่เห่าชาวจักรยานโดยมากจะเป็นหมาที่มีเจ้าของครับ หมาจรจัดจะไม่เห่าไล่แถมหมาจรจัดยังเป็นมิตรกับชาวจักรยานซะอีก (อาจจะมีเป็นบางตัวเท่านั้นที่ไล่เห่าพวกเรา)
- วิธีไล่น้องหมาพวกนี้ ข้อสำคัญคือต้องไม่ปั่นเร่งให้เร็วขึ้น(มันจะยิ่งสนุกใหญ่) ควรปั่นให้ช้าลงไม่ก็รักษาความเร็วเท่าเดิมเอาไว้ ทำใจดีสู้หมา ถ้าเราไม่กลัวมัน..มันจะกลัวเราครับ
- การปั่นหนีหากไม่มั่นใจจริงๆว่าจะหนีพ้น อย่าทำครับ รถล้มไปจะอันตรายกับตัวเองด้วยซ้ำ
- กระบอกน้ำที่พกอยู่เอาขึ้นมาฉีดก็เป็นวิธีที่ดี แต่ต้องมั่นใจว่าเราสามารถทำได้คล่องแคล่วว่องไว ไม่งั้นรถล้มไป....จะอายหมา...

- หากคุณเป็นคนประเภทรักหมา อาจนำขนมต่างๆติดตัวไปด้วยเวลามันเห่าก็โยนให้มันกิน...ผมเองทำแบบนี้มา จนเดี๋ยวนี้ได้หมาเป็นเพื่อนเต็มเลยครับ
-
- จะอย่างไรก็ตาม ที่อ่านมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเสี้ยวของประสบการณ์ของผมคนเดียวเท่านั้น หากต้องการที่ต้องการจะได้ความรู้ เทคนิคด้านต่างๆให้มากขึ้นแล้ว ผมขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ
- หาเพื่อนที่ปั่นมาก่อนเรามีประสบการณ์ปั่นมากกว่าเรา มาปั่นด้วย ไม่ก็เซาะแสวงหาชมรม,ทีมกลุ่มปั่นต่างๆที่มีมากมาย แล้วก็ขอเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มนั้นๆ แต่ขอให้เลือกสักนิดว่า กลุ่มนั้นเขามีลักษณะการปั่นเป็นอย่างไรเช่นปั่นเร็ว,ปั่นเข้าป่า-ภูเขา,ปั่นเที่ยวใกล้ๆ,ปั่นเที่ยวไกลๆ ,ปั่นไม่มากแต่ชอบแต่งรถ,ปั่นไปกินไป...มากมายไปหมด ต้องดูให้ดีๆนะครับ..อย่าลืมว่าเรามาปั่นหาความสุข
-
- ถึงตรงนี้แล้วคิดว่าพอที่จะเป็นแนวทางหาความสุขจากการขี่จักรยานได้บ้างแล้วนะครับ..
พอจะสรุปอีกครั้งได้ว่า

- ถึงตรงนี้แล้วคิดว่าพอที่จะเป็นแนวทางหาความสุขจากการขี่จักรยานได้บ้างแล้วนะครับ..
พอจะสรุปอีกครั้งได้ว่า

เราควรหาเพื่อน กลุ่ม ชมรมต่างๆ ที่เลือกแล้วว่าเหมาะกับเรา แล้วก็หาความรู้จากคนที่เขาขี่มาก่อนและขอคำแนะนำ เรื่องต่างๆที่เราอยากรู้เกี่ยวกับจักรยานตั้งแต่การเลือกซื้อฯลฯ

และที่สำคัญที่สุดที่อยากจะทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ก็คือ
 ความสุขในการปั่นก็คือความพอดีแก่ตนเอง โดยไม่เบียดเบียนครอบครัว เพื่อนมนุษย์
อย่าไปกังวลกับข้ออ้างต่างๆที่ทำให้เราไม่ได้ปั่นจักรยาน ทุกเรื่องที่คุณอ่านมาแล้วทั้งหมดคุณสามารถลืมมันได้ในทันทีและก็ออกมาปั่นๆๆๆๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นใด ขออย่างเดียวคือขอให้ออกมาปั่นจักรยานเท่านั้นคุณก็ได้รับชัยชนะแล้วครับ
                                                                                 อาคเนย์ ปัญจเทพ
                                                                                                                            05-06-2554 14.30น

ไม่มีความคิดเห็น:

Hatyai Car-free day 2020

หาดใหญ่ คาร์ฟรีเดย์ 22 กันยายน 2563